วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

 
สมาชิกกลุ่มที่ 5

                                   
                                       1.  นาย ณฐภัทร จำนงค์         ( จูเนียร์ )   เลขที่ 5   
                                       2.  นายปฎิภาณ เวศยผลิน     ( เค้ก )         เลขที่ 13
                                       3.  น.ส. ธนาภา บูชารัมภ์        ( มุก )         เลขที่ 22
                                       4.  น.ส. พรรณวดี แก้วขาว     ( ปิ๊ก )        เลขที่ 30
                                       5.  น.ส. อธิศปภา ศตศยามล  ( ซุย )         เลขที่ 38
                                       6.  น.ส. อังศณา สุขเจริญ       ( มีน )         เลขที่ 45

กำเนิดเอกภพ
โลกกับเอกภพ

โลกเป็นดาวเคราะห์ดวงหนึ่งในระบบสุริยะที่มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง ระบบสุริยะเป็นสมาชิกส่วนหนึ่งในอาณาจักรแห่งดวงดาว หรือการแลกซีทางช้างเผือก ซึ่งมีสมาชิกดาวฤกษ์ประมาณสองแสนล้านดวง และกาแล็กซีทางช้างเผือกเป็นสมาชิก แห่งหนึ่ง ในเอกภพ ซึ่งประกอบด้วยกาแล็กซีมากมายกว่าหมื่นล้านแห่ง มนุษย์จึงเปรียบประดุจผงธุลีในเอกภพอันกว้างใหญ่ไพศาล โลกอยู่ที่ใดในเอกภพ เพื่อแสดงให้เห็นว่ามนุษย์เปรียบดังผงธุลีในจักรวาล เมื่อพิจารณาจากโลกสู่อาณาจักรกว้างใหญ่ ของกาแล็กซีและของเอกภพ  

กำเนิดเอกภพ
ทฤษฎีกำเนิดเอกภพ ที่ได้รับความเชื่อถือมาก ในหมู่นักดาราศาสตร์ คือ ทฤษฎีระเบิดใหญ่ หรือ Big Bang เป็นการระเบิดครั้งยิ่งใหญ่ จากพลังงานบางอย่าง สาดกระจายมวลสารทั้งหลาย ออกไปทุกทิศทาง แล้วเริ่มเย็นตัวลง จับกลุ่มเป็น ก้อนก๊าซ ขนาดใหญ่ จนยุบตัวลงเป็น กาแล็กซี และดาวฤกษ์ ได้ก่อรูปขึ้นมาใน กาแล็กซีเหล่านั้น ประมาณหนึ่งหมื่นล้านปี หลังจากการระเบิดใหญ่ ที่เกลียวของของ กาแล็กซีทางช้างเผือก ดวงอาทิตย์ โลก และดาวเคราะห์ดวงอื่น ได้ถือกำเนิดขึ้นทฤษฎีการเกิดบิกแบง

ทฤษฎีการเกิดบิกแบง แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ
1.      จักรวาลเปิด
2.      จักรวาลปิด
ทฤษฎีสภาวะคงที่
ทฤษฎีนี้ตั้งขึ้นจากนักวิทยาศาสตร์ ชาวอังกฤษ 3 คน ได แก เฟรด ฮอยด์ (Fred Hoyle) เฮอร์ แมน บอนได (Hermann Bondi) และโทมัส โกลด (Thomas Gold) เมื่อป พ.ศ. 2491 สรุปความว่า จักรวาลไม่มีจุดกําเนิดและไม่มีจุดจบ จักรวาลมีสภาพดังที่เป็นอยู ในปัจจุบันนานแล้ว และจะมี สภาพเช่นนี้ไปตลอดกาล
คือแบบจำลองของการกำเนิดและการวิวัฒนาการของเอกภพในวิชาจักรวาลวิทยาซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และจากการสังเกตการณ์ที่แตกต่างกันจำนวนมาก นักวิทยาศาสตร์โดยทั่วไปใช้คำนี้สำหรับกล่าวถึงแนวคิดการขยายตัวของเอกภพหลังจากสภาวะแรกเริ่มที่ทั้งร้อนและหนาแน่นอย่างมากในช่วงเวลาจำกัดระยะหนึ่งในอดีต และยังคงดำเนินการขยายตัวอยู่จนถึงในปัจจุบัน

                                          GALAXIES
           เอกภพมีการขยายตัวมาตั้งแต่ครั้งที่มีกระเบิดครั้งใหญ่ครั้งแรก (original great explosion) สสารที่เกิดขึ้นจากการระเบิดในครั้งนั้นคือ สิ่งที่เป็นหมู่เมฆระหว่างดาว (interstellar clouds) ที่ประกอบด้วยก๊าซและธุลี  ดาวฤกษ์และดาวเคราะห์ต่าง ๆ ในปัจจุบันนี้ สสารและเทห์ฟากฟ้าทั้งหมดดังกล่าวไม่ได้กระจายออกไปในห้วงอวกาศโดยสม่ำเสมอเท่ากัน  หากแต่ออกไปเป็นกลุ่ม ๆ  กลุ่มหนึ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ กาแล็กซี่ (galaxy)  ซึ่งเป็นที่อยู่ของระบบสุริยะ
 
หลุมดำ
      หลุมดำ ( black hole ) หมายถึงเทหวัตถุในเอกภพที่มีแรงโน้มถ่วงสูงมาก ไม่มีอะไรออกจากบริเวณนี้ได้แม้แต่แสง เราจึงมองไม่เห็นใจกลางของหลุมดำ หลุมดำจะมีพื้นที่หนึ่งที่เป็นขอบเขตของตัวเองเรียกว่าขอบฟ้าเหตุการณ์ ที่ตำแหน่งรัศมีชวาร์สชิลด์ ถ้าหากวัตถุหลุดเข้าไปในขอบฟ้าเหตุการณ์ วัตถุจะต้องเร่งความเร็วให้มากกว่าความเร็วแสงจึงจะหลุดออกจากขอบฟ้าเหตุการณ์ได้ แต่เป็นไปไม่ได้ที่วัตถุใดจะมีความเร็วมากกว่าแสง วัตถุนั้นจึงไม่สามารถออกมาได้อีกต่อไปค้นพบหลุมดำในจักรวาลแล้วอย่างน้อย 6 แห่ง
กาแล็กซีเพื่อนบ้าน
กาแล็กซีเพื่อนบ้าน คือ กาแล็กซีที่มองเห็นด้วยตาเปล่า ได้แก่ กาแล็กซีแอนโดรเมดา กาแล็กซีแมกเจลแลนใหญ่ และกาแล็กซี  แมกเจลแลนเล็ก  กาแล็กซีแมกเจลแลนใหญ่และกาแล็กซีแมกเจลแลนเล็ก เป็นกาแล็กซีที่ตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่ เฟอร์ดินานด์ แมกเจลแลน   นักสำรวจชาวโปรตุเกส
1.      กาแล็กซีแมกเจลแลนใหญ่และแมกเจลแลนเล็กอยู่ห่างจาก กาแล็กซีทางช้างเผือกประมาณ 163,000 ปีแสง กาแล็กซีอยู่ห่างจากกาแล็กซีทางช้างเผือกประมาณ 196,000 ปีแสงเป็นกาแล็กซีแบบไร้รูปทรงหรือมีรูปร่างไม่แน่นอน มีความ สว่างมากจนสามารถมองเห็นได้คล้ายกับก้อนเมฆในยามค่ำคืน อยู่ใกล้ขอบฟ้าทิศใต้

2. กาแล็กซีแอนโดรเมดาอยู่ห่างจากโลกประมาณ 2.4 ล้านปีแสง เรียกสั้น ๆ เป็นรหัสว่า M31 เป็นกาแล็กซีที่ปรากฏอยู่ในทิศทางของกลุ่มดาวแอนโดรเมดา ซึ่งอยู่ ระหว่างกลุ่มดาวม้าบินและกลุ่มดาวค้างคาว เป็นกาแล็กซีรูปกังหันเหมือนกาแล็กซีทางช้างเผือกแต่มีขนาดใหญ่กว่า เหมือนจานสองใบประกบกัน มีแขนเกลียวยื่นออกมา คล้าย ๆ กันกับ กาแล็กซีทางช้างเผือกของเรา และยังเป็นกาแล็กซีขนาดใหญ่ ที่อยู่ใกล้ทางช้างเผือก ของเรามากที่สุด (คืออยู่ห่างไปเพียง 2.2ล้านปีแสง) กาแล็กซีแอนดรอมีดาเป็นกาแล็กซีรูปเกลียว (Spiral galaxy) คือมีลักษณะกลมแบน

ประเภทของกาแล็กซี่  ( TYPE OF GALAXY )
     4.      ดาราจักรแบบไร้รูปร่าง( irregular galaxies )เช่น ดาราจักรแมกเจลแลนใหญ่ ( large magellanic clouds galaxy) และดาราจักรแมกเจลแลนเล็ก (small magellanic clouds galaxy

1.      ดาราจักรแบบก้นหอย( spiral galaxies:S )เช่น ดาราจักรแอนโดรเมดา (M31)ดาราจักรทางช้างเผือกหรือกาแล็กซีของเรา


2.      ดาราจักรแบบกังหันมีแกน ( bar-spiral galaxies: Bs )

3.      ดาราจักรรูปไข่ ( eclipse galaxies: E )ดาราจักรขนาดเล็กที่อยู่ใกล้ๆ กับดาราจักรแอนโดรเมดาสองดาราจักร คือ M32 และ M110

4. ดาราจักรแบบไร้รูปร่าง( irregular galaxies )เช่น ดาราจักรแมกเจลแลนใหญ่ ( large magellanic clouds galaxy) และดาราจักรแมกเจลแลนเล็ก (small magellanic clouds galaxy)
 

 

การประทะกันของกาแล็กซี  (THE COLLOSION OF GALAXY)
       
เนื่องจากกาแล็กซีมีจำนวนมาก ส่วนใหญ่คุมกันเป็นกลุ่มเฉพะที่ (local group) และต่างอยู่ค่อนข้างจะใกล้ชิดกัน  ดังนั้นจึงมีการ "ปะทะ"  กันบ่อย ๆ  สิ่งที่เกิดขึ้นจากการปะทะกันก็คือเมื่อกลุ่มกาแล็กซีเคลื่อนเข้ามาใกล้กับอีกกาแล็กซีหนึ่งจนได้ระยะ ความโน้มถ่วงแบบดึงเข้าหาตัว (gravitation pull)  ของแต่ละกาแล็กซีในกลุ่มกาแล็กซีนั้นก็จะเริ่มดึงดูดดาวฤกษ์ดวงที่อยู่ไกลสุดของอีกกาแล็กซีที่มันเคลื่อนเข้าหา  และยิ่งเข้าใกล้ก็ยิ่งแรงขึ้น ซึ่งในที่สุดก็เป็นผลให้กาแล็กซีนั้นต้องสูญเสียดาวฤกษ์ไปให้กลุ่มกาแล็กซีทีละดวงสองดวง  ในกรณีที่ปะทะกันหนัก  มวลของดาวฤกษ์ของทั้งสองฝ่ายที่ปะทะกันก็จะก่อให้เกกาแล็กซี่ใหม่ขึ้นมาอีก 1 กาแล็กซี
การขยายตัวของเอกภพ ( EXPANSON OF THE UNIVERSE )
        
ข้อพิสูจน์การขยายตัวของเอกภพ (expansion of the unierse)  ข้อหนึ่งก็คือข้อเท็จจริงที่ว่ากาแล็กซีจำนวนมากที่ประกอบกันขึ้นเป็นเอกภพนั้นกำลังเคลื่อนที่ห่างออกไปจากกันและกัน การสังเกตการณ์จากโลก  ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกาแล็กซีหนึ่งนั้นพบว่ากาแล็กซีอื่น ๆ กำลังเคลื่อนห่างออกไปจากเรา  และยิ่งเคลื่อนที่ห่างออกไปก็ยิ่งมีความเร็วเพิ่มขึ้น  บรรดากาแล็กซี่ที่อยู่ริมนอกของเอกภพเป็นพวกที่ได้ก่อเกิดขึ้นก่อนเป็นพวกแรก  หรืออีกนัยหนึ่งเป็นพวกที่มีอายุน้อยที่สุด  และเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเกือบเท่าความเร็วแสง ซึ่งเป็นความเร็วสูงสุดที่เป็นไปได้

แบบฝึกหัดเรื่องเอกภพและกาแล็กซี่
1.ทฤษฎีที่อธิบายเกี่ยวกับการกำเนิดของเอกภพ ที่เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน คือทฤษฎีอะไร
 ก.เอกภพ                                                                                               ข.บิกแบง                                     
 ค.สัมพันธภาพ                                                                                      ง.ดาราศาสตร์
2.ทฤษฎีตามข้อ 1 ได้อธิบายหลักการสำคัญไว้ว่าอย่างไร
ก.พระเจ้าเป็นผู้สร้าง                                                                            ข.ธรรมชาติเป็นผู้สร้าง                         
ค.มวลเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานได้                                                         ง.พลังงานเปลี่ยนรูปเป็นมวลได้
3.ปรากฏการณ์ใดที่ไม่สนับสนุนทฤษฎีบิกแบง
ก.การเกิดลมสุริยะ
ข.การขยายตัวของของเอกภพ
ค.การค้นพบอุณหภูมิพื้นหลัง
ง.การวัดสเปกตรัมจากการเคลื่อนที่ของดาราจักร
4.อนุภาคมูลฐานที่มีขนาดเล็กที่สุด ในการให้กำเนิดเอกภพ เรียกว่าอะไร
ก. ควาร์ก                         ข.โปรตอน             ค.นิวเคลียส              ง.อิเล็กตรอน
5.เอกภพ มีอายุประมาณเท่าไร
       ก.15,000 ล้านปี                             ข.10,000 ล้านปี                    ค.5,000 ล้านปี                      ง.1,000 ล้านปี
6.เอกภพ มีรัศมีไม่น้อยกว่าเท่าไร
ก.15,000 ล้านปีแสง                                                                             ข.10,000 ล้านปีแสง            
ค.5,000 ล้านปีแสง                                                                               ง.1,000 ล้านปีแสง
7.ปัจจุบันนี้เอกภพ มีการเคลื่อนที่อย่างไร
ก.อยู่นิ่ง  ข.เคลื่อนที่เข้ามารวมกัน                       ค.ขยายตัวออกจากกัน                         ง.ยังไม่มีข้อมูล
8.การเรียงลำดับจากสิ่งที่มีขนาดเล็กไปหาขนาดใหญ่ ในข้อใดถูกต้อง
ก.กาแล็กซี ดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์ เอกภพ                          ข.ดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์ กาแล็กซี เอกภพ
ค.กาแล็กซี ดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ เอกภพ                          ง.ดาวฤกษ์ กาแล็กซี ดาวเคราะห์ เอกภพ
9.ระบบสุริยะ อยู่ในกาแล็กซีใด
ก.กังหัน                  ข.ทางช้างเผือก                      ค.แอนโอรเมดา                     ง.แมกเจลแลน
10. กาแล็กซีของเรา สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าในคืนเดือนมืด อยู่ในทิศใด
ก.ใต้                        ข.เหนือ                                   ค.ตะวันตก                             ง.ตะวันออก
11.กาแล็กซี หนึ่ง ๆ มีรัศมีประมาณเท่าไร
ก.150,000 ปีแสง                  ข.100,000 ปีแสง                   ค.50,000 ปีแสง                     ง.10,000 ปีแสง
12.นักดาราศาสตร์ได้ค้นพบว่าดาราจักรทางช้างเผือก มีรูปร่างแบบใด
ก.กลมโต                                                ข.คล้ายจาน                           ค.คล้ายไข่ต้ม                         ง.คล้ายลูกบอล
13.ดาวฤกษ์ดวงหนึ่งอยู่ห่างจากโลกประมาณ 1,000 ปีแสง ถ้าขณะนี้ดาวนั้นเกิดการระเบิด (ซุปเปอร์โนวา) เราจะสังเกตเห็นปรากฏการณ์ดังกล่าวตามเวลาในข้อใด
ก.เห็นทันทีที่เกิด                                    ข.500 ปี                                  ค.1,000 ปี                              ง.10,000 ปี
14.ทฤษฎีใหม่ที่สุดที่เกี่ยวข้องกับกำเนิดของระบบสุริยะนั้น กล่าวไว้ดังในข้อใด
ก.ดวงอาทิตย์เกิดขึ้นก่อนจากการรวมตัวของกลุ่มก๊าซและฝุ่นละออง
ข.ดาวเคราะห์เกิดมาจากการสลายตัวของดวงอาทิตย์ดวงอื่น ๆ
ค.ดวงอาทิตย์ และดาวเคราะห์เกิดจากกลุ่มก๊าซที่ร้อนจัดและหมุนอยู่
ง.ดวงอาทิตย์เกิดขึ้นก่อน มีดาวฤกษ์เคลื่อนที่ผ่านมาใกล้ดวงอาทิตย์
15.ดาวพุธที่สว่างที่สุดมีความสว่าง -1.5 ดาวเสาร์เมื่อสว่างที่สุดมีความสว่าง -0.5 ดาวพุธมีความสว่างมากกว่าดาวเสาร์กี่เท่า
ก.2.0                                       ข.2.5                                       ค.4                                          ง.6.25
16.บริเวณที่เรียกว่าเป็นที่อยู่ของดาวหางในระบบสุริยะคือบริเวณใด
ก.บริเวณใจกลางดวงอาทิตย์                                                              ข.บริเวณแถบไคเปอร์
ค.บริเวณดาวเคราะห์น้อย                                                   ง.บริเวณทางช้างเผือก
17. 1 ปีแสง หมายถึง
ก.ความเร็วของแสง                                                                               ขระยะทางที่แสงเคลื่อนที่ไป 1 ปี.
ค.ระยะทางที่หาค่าไม่ได้                                                       ง.หนึ่งหน่วยดาราศาสตร์
18.ทางช้างเผือกที่มองเห็นด้วยตาเปล่า เป็นลายพาดสีขาวสว่างบนท้องฟ้าในเดือนมืดสนิทคืออะไร
ก.ฝุ่นธุลีในระบบสุริยะ                                         
ข.ดวงดาวที่อยู่ในระบบกาแล็กซีของเรา
ค.เนบิวลาชนิดหนึ่ง
ง.ดวงดาวที่อยู่นอกระบบกาแล็กซี ซึ่งอยู่ไกลมากจนมองแยกออกเป็นดวงๆไม่ออก
19.แสงเหนือ แสงใต้เกิดจากอะไร
ก.อนุภาคของลมสุริยะชนกับสนามแม่เหล็กโลก
ข.อนุภาคของลมสุริยะชนกับอะตอมของแก๊สในบรรยากาศของโลก
ค.รังสีอัตราไวโอเลตที่แผ่จากดวงอาทิตย์ชนกับสนามแม่เหล็กโลก
ง.รังสีอัตราไวโอเลตชนกับอะตอมของแก๊สในบรรยากาศของโลก
20.ดาวเคราะห์น้อยอยู่ในบริเวณใดของระบบสุริยะ
ก.อยู่ระหว่างดาวพุธกับดาวศุกร์                                                        ข.อยู่ระหว่างดาวอังคารกับดาวพฤหัสบดี
ค.อยู่ระหว่างดาวพฤหัสบดีกับดาวเสาร์                                            ง.อยู่ระหว่างดาวศุกร์กับโลก
21. ทฤษฏีที่เป็นที่นิยมว่าเอกภพเกิดมาได้อย่างไร คืออะไร
ก.บิกแบง                              ข.บิกบอม
ค.ความลับของสสารมืด         ง.อินเฟลชั่น
22. กาแล็คซี่ที่เรามองเห็นในภาพมีเส้นผ่านศุนย์กลางประมาณเท่าไหร่
ก.100,000ปีแสง                     ข.50,000ปีแสง
ค.400,000ปีแสง                     ง.10,000,000ปีแสง
23. ปีแสงเท่ากับเท่าไหร่ในการเดินทาง
ก.ประมาณ9.5ล้านล้านกิโลเมตร             
ข.ประมาณ1ล้านล้านกิโลเมตร
ค.ประมาณ100ล้านกิโลเมตร
ง.กำหนดไม่ได้
24. บิกแบง มีลักษณะการเกิดได้อย่างไร
ก.ระเบิดทุกสิ่งอย่าง
ข.เป็นการรวมตัวของแก็สหลายๆชนิดจนเกิดเป็นเอกภพ
ค.อุกกาบาตขนาดยักษ์พุ่งชนกันเองจึงเกิดเปนเอกภพ
ง.ไม่มีข้อใดถูก
25. เวลาที่ดวงอาทิตย์หมุนรอบจักรวาล1รอบเรียกว่าอะไรในชื่อภาษาไทย
ก. ปีจักรวาล                    ข.จักรวาลศักย์                   ค.ปีสุริยะ             ง.ไม่มีข้อถูก
26. เวลาที่ดวงอาทิตย์หมุนรอบจักรวาล1รอบเรียกว่าอะไรในชื่อภาษาอังกฤษ
ก.Bigbang Year
ข.Galaxy Cosmar
ค.Cosmic Year
ง.Sun Year
27. จักรวาลใดที่ว่ากันว่าสวยที่สุด
ก.แมกเจลเลนเล็ก
ข.แมกเจลเลนใหญ่
ค.ทางช้างเผือก
ง.เอนโดรเมดรา
28. ดาราจักรใดที่เกิดจากเนบิวลารวมตัวกัน
ก.เอนโดรเมดา
ข.ทางช้างเผือก
ค.แมกเจลเลนเล็ก
ง.ไม่มีข้อถูก
29. ดาราจักรชนิดใดหายากมากในกาแล็คซี่ทางช้างเผือก
ก.ดาราจักร์แคระ
ข.ดาราจักรชนิดก้นหอย
ค.ดาราจักรรี
ง.ดาราจักรอันตรกิริยา
30. ดาราจักรใดที่มีรูปร่างค้ลายก้นหอยกับดาราจักรรี
 ก. ดาราจักรแคระ
 ข. ดาราจักรอันตรกิริยา
 ค. ดาราจักรลูกสะบ้า
 ง. ถูกทุกข้อ
31. ทฤษฎีใดที่ใช้อธิบายการเกิดเอกภพ
ก.      สัญญาณภาพผ่านดาวเทียม
ข.      Steady - state
ค.      บิกแบง
ง.        ทฤษฎีขยายตัว
32. เมื่อวัตถุอยู่ในสภาพไร้น้ำหนัก วัตถุนั้นจะมีสภาพเช่นไร
ก.      วัตถุเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุด
ข.      มวลของวัตถุจะมีค่าต่ำสุด
ค.      วัตถุเคลื่อนที่ด้วยอัตราเร่งคงที่
ง.       วัตถุนั้นมีน้ำหนักเท่ากับศูนย์
33. ทางช้างเผือกที่มองเห็นด้วยตาเปล่า เป็นลายพาดสีขาวสว่างบนท้องฟ้าในเดือนมืดสนิทคืออะไร
ก.      ฝุ่นธุลีในระบบสุริยะ
ข.      ดวงดาวที่อยู่นอกระบบกาแล็กซี ซึ่งอยู่ไกลมากจนมองแยกออกเป็นดวงๆไม่ออก
ค.      เนบิวลาชนิดหนึ่ง
ง.       ดวงดาวที่อยู่ในระบบกาแล็กซีของเรา
34. เนื้อสารที่เกิดขึ้นขณะเกิดบิกแบงคือ
ก.      มวลของสารไฮโดรเจนและฮีเลียม
ข.      ควาร์ก อิเล็กตรอน นิวทริโน และโฟตอน
ค.      โฟตอน
ง.       ไม่มีข้อถูก
35. ลักษณะและสมบัติของหลุมดำ คือข้อใด
ก.      มีมวลต่ำอยู่รอบนอกของกาแล็กซี
ข.      มีมวลต่ำอยู่ ณ ศูนย์กลางของกาแล็กซี
ค.      มีมวลมหาศาลอยู่ ณ ศูนย์กลางของกาแล็กซี
ง.       ไม่มีข้อถูก
36. ข้อใดเรียงลำดับจากระบบใหญ่ไปสู่ระบบเล็กตามลำดับอย่างถูกต้อง
ก.      กลุ่มดาว เอกภพ ดาราจักร แนวทางช้างเผือก
ข.      เอกภพ ดาราจักร แนวทางช้างเผือก กลุ่มดาว
ค.      ดาราจักร แนวทางช้างเผือก กลุ่มดาว เอกภพ
ง.       แนวทางช้างเผือก กลุ่มดาว เอกภพ ดาราจักร   
37. พลังงานบนดวงอาทิตย์เกิดจากการหลอมเหลวของแก๊สชนิดใด
ก.      ฮีเลียม
ข.      ออกซิเจน
ค.      ไฮโดรเจน
ง.       ไนโตรเจน
38. การที่ดาวฤกษ์ปรากฏเป็นแสงระยิบระยับบนท้องฟ้าเพราะ
ก.      เกิดจากปฏิกิริยาภายในดาวฤกษ์
ข.      เกิดจากดาวฤกษ์สามารถกระพริบแสงได้ในตัวเอง
ค.      เกิดจากอำนาจแม่เหล็กไฟฟ้าบนดวงดาว
ง.       เกิดจากการผันผวนของบรรยากาศโลก ทำให้แสงเกิดการหักเหตลอดเวลา 
39. การระเบิดของซูเปอร์โนวาทำให้เกิด
ก.      ธาตุที่หนักกว่าธาตุเหล็ก
ข.      ดาวนิวตรอน
ค.      หลุมดำ
ง.       ถูกทุกข้อ
40. คำกล่าวในข้อใดถูก
ก.      ดวงอาทิตย์จบลงด้วยการไม่ระเบิด
ข.       ดาวแคระขาวเกิดจากดวงอาทิตย์กำลังจะหมดสภาพ
ค.      วาระสุดท้ายของดาวฤกษ์มวลสารมากกว่าดวงอาทิตย์มากๆจะเป็นหลุมดำ
ง.       ถูกทุกข้อ

41. กาแล็กซีมีกี่ประเภท
ก.รูปวงรี รูปกังหัน ไร้รูปร่าง
ข.รูปวงกลม รูปสามเหลี่ยม รูปกังหัน
ค.รูปกังหัน รูปวงรี รูปสามเหลี่ยม
ง.รูปวงรี รูปวงกลม ไร้รูปร่าง
42. กาแล็กซีทางช้างเผือกของเราอยู่ในประเภทใด
ก.รูปวงกลม
ข.รูปวงรี
ค.รูปกังหัน
ง.ไร้รูปร่าง
43. กาแล็กซีที่มีรูปร่างเป็นวงก้นหอย จัดว่าเป็นกาแล็กซีแบบใด
ก.รูปวงรี
ข.รูปกังหัน
ค.รูปสามเหลี่ยม
ง.ไร้รูปร่าง
44 กาแล็กซีทางช้างเผือกมองด้านข้างเห็นเป็นรูปใด
ก.รูปจานแบน
ข.รูปวงกลม
ค.เส้นตรง
ง.รูปสี่เหลี่ยม
45. เราเห็นกาแล็กซีทางช้างเผือกได้บนท้องฟ้ามีสีใด
 ก.แนวสีฟ้าเข้มๆ
ข.แนวสีฟ้าอ่อน
ค.แนวสีส้มอ่อน
ง.แนวฝ้าขาวจางๆ
46. เรามองเห็นกาแล็กซีทางช้างเผือกบนท้องฟ้ามีขนาดกว้างเท่าใด
ก.ประมาณ 12  องศา
ข.ประมาณ 13 องศา
ค.ประมาณ 14 องศา
ง.ประมาณ 15 องศา
47. ภาพจากกล้องโทรทรรศน์แสดงให้เห็นว่าทางช้างเผือก คือ
ก.ดาวฤกษ์จำนวนมากมายรวมกระจุกเดียว
 ข.ดาวฤกษ์จำนวนมากมายกระจัดกระจาย
ค.ดาวฤกษ์จำนวนน้อย
ง.ไม่มีดาวฤกษ์
48. กาแล็กซีทางช้างเผือกมีศูนย์กลางประมาณเท่าใด
ก.ประมาณ 10,000,000 ปีแสง
ข.ประมาณ 1,000,000 ปีแสง
ค.ประมาณ 100,000 ปีแสง
ง.ประมาณ10,000 ปีแสง
49. กาแล็กซีทางช้างเผือกมีความหนาประมาณเท่าใด
ก.ประมาณ 1,000 ปีแสง
ข.ประมาณ 10,000 ปีแสง
ค.ประมาณ 100,000 ปีแสง
ง.ประมาณ 1,000,000 ปีแสง
50. กาแล็กซีทางช้างเผือกมีดาวฤกษ์ประมาณเท่าใด
ก.ประมาณ 1-4 ล้านล้านดวง
ข.ประมาณ 1-4 แสนล้านดวง
ค.ประมาณ 1-3 ล้านล้านดวง
ง.ประมาณ 1-3 แสนล้านดวง
51. กาแล็กซีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและใกล้โลกมาที่สุด คือ
ก.กาแล็กซีรี
ข.กาแล็กซีกังหัน
ค.กาแล็กซีเลนส์
ง.กาแล็กซีแอนโดรมีดา
52. ในเอกภพมีกาแล็กซีประมาณเท่าใด
ก.ประมาณ 1 พันล้าน กาแล็กซี
ข.ประมาณ 1 หมื่นล้าน กาแล็กซี
ค.ประมาณ 1 แสนล้าน กาแล็กซี
ง.ประมาณ 1 ล้านล้าน กาแล็กซี
53.  ปีแสง มีระยะทางเท่าใด
ก.9.5 ล้านกิโลเมตร
ข.9.5 ล้านล้านกิโลเมตร
ค.9.6 ล้านกิโลเมตร
ง.9.6 ล้านล้านกิโลเมตร
54. ใครเป็นผู้เสนอแผนภาพ ฮับเบิล เป็นครั้งแรก
ก.เอ็ดวิน ฮับเบิล
ข.จอห์น ฮับเบิล
ค.ดาวิน ฮับเบิล
ง.สตาร์ ฮับเบิล
55. กาแล็กซีรี มีลักษณะเป็นอย่างไร
ก.รูปร่างค่อนข้างเรียบ
ข.รูปร่างเป็นรูปวงกลม
ค.มีใจกลางสว่าง
ง.ไม่มีดาวฤกษ์
56. ผู้ค้นพบกาแล็กซีแมกเจลแลนใหญ่ และกาแล็กซีแมกเจลแลนเล็กเป็นชาวประเทศใด
ก.ฝรั่งเศส
ข.โปรตุเกส
ค.อเมริกัน
ง.อังกฤษ
57. ข้อใดกล่าวถูกต้อง
ก.กาแล็กซีแอนโดรเมดามีลักษณะคล้ายกับกาแล็กซีทางช้างเผือกแต่ใหญ่กว่า
ข.กาแล็กซีห่างจากดวงอาทิตย์ประมาณ 3 ล้านล้านปีแสง
ค.กาแล็กซีแบบกังหันมีดาวที่จะหมดอายุไขไปจำนวนมาก
ง.กาแล็กซีแมกเจลแลนใหญ่มีลักษณะคล้ายกับกาแล็กซีรี
58. หลุมดำเกิดจากอะไร
ก.ดาวเคราะห์ที่มีมวลน้อยและหมดอายุไขลง
ข.ดาวเคราะห์ที่มีมวลมากและหมดอายุไขลง
ค.ดาวฤกษ์ที่มีมวลน้อยและหมดอายุไขลง
ง.ดาวฤกษ์ที่มีมวลมากและหมดอายุไขลง
59. เนบิวลา คืออะไร
ก.กลุ่มของแก๊สและฝุ่นผงที่กระจัดกระจายอยู่ในอากาศ
ข.ชื่อกลุ่มดาวในกาแล็กซี
ค.กลุ่มของแก๊สและฝุ่นผงที่รวมตัวกันอยู่ในอากาศ
ง.ชื่อยานสำรวจในอวกาศ
60. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับกาแล็กซีทางช้างเผือก
ก.ลักษณะของกาแล็กซีทางช้างเผือกมีรูปร่างคล้ายจักรหรือไข่ดาว
ข.ในคืนเดือนมืดถ้าเรามองขึ้นไปบนท้องฟ้า จะเห็นเป็นแทบสีขาวพาดอยู่
ค.ภายในกาแล็กซีทางช้างเผือก มีทั้งกลุ่มดาวฤกษ์ กระจุกดาวเนบิวลา ฝุ่นธุลี ก๊าซ
และที่ว่าง
ง.ถูกทุกข้อ
61. ผู้ที่ค้นพบว่ากาแล็กซี่จะเคลื่อนที่ไกลออกไปด้วยความเร่งที่เพิ่มขึ้นตามระยะห่างคือข้อใด
ก.      เฟรด ฮอยส์       ( Fred Hoyle )                                           ข. โธมัส โกลด์  ( Thomas Gold )
ข.       ค. เลอแมทร์      ( Georges Lemaitre )                               ง. เอ็ดวิน พี ฮับเบิล  ( Edwin Powell Hubble )
62. องค์ประกอบที่สำคัญของกาแล็กซี่คืออะไร
ก.      ดาวเคราะห์ และกาแล็กซี่                                            ข. ดาวเคราะห์ และเนบิวลา
ข.       ค. ดาวฤกษ์ และกาแล็กซี่                                            ง. ดาวฤกษ์และเนบิวลา
63. หลุมดำหมายถึงข้อใด
ก.      บริเวณที่มีแรงโน้มถ่วงสูง
ข.        ข. บริเวณที่ไม่มีแสงสว่างเนื่องจากไม่ได้รับแสงจากดวงอาทิตย์
ค.      บริเวณที่เป็นหลุมเนื่องจากการกระแทกของอุกกาบาต
ง.        ง. ข้อ 1 และข้อ 2 ถูกต้อง
64. ระบบสุริยะอยู่ในกาแล็กซี่ใด
ก.      แมกเจลแลนใหญ่                                                     ข. แมกเจลแลนเล็ก  
ข.       ค. แอนโดรเมดา                                                       ง. ทางช้างเผือก
65. กาแล็กซี่ใดที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าภายในโลกของเรา
ก.      แอนโดรเมดา                                                            ข. แมกเจลแลนเล็ก
 ค. แมกเจลแลนใหญ่                                                        ง. ถูกทุกข้อ
66. ข้อใดให้ความหมายของ  ทางช้างเผือก ได้ถูกต้อง
ก.      ดวงดาวต่างๆที่วางตัวในแนวเดียวกัน             ข. ดาวเคราะห์ในสุริยะที่อยู่ในระนาบเดียวกัน็ลี
 ค. ดาวฤกษ์จำนวนมากที่อยู่ในแนวเดียวกัน          ง. ดาวฤกษ์และดาวเคราะห์จำนวนมากที่อยู่ในแนวเดียวกัน
67. เราสามารถมองเห็นทางช้างเผือกในทิศทางของกลุ่มดาวในข้อใด
ก.      ดาวแมงป่อง ดาวคนยิงธนู                               ข. ดาวอินทรี ดาวหงส์
ค. ดาวนายพราน ดาววัว                                        ง. ดาวแมงป่อง ดาวอินทรี
68. ข้อใดเป็นส่วนประกอบของกาแล็กซี่ทางช้างเผือก
ก.      ดาวฤกษ์ในทางช้างเผือก ดาวเคราะห์ต่างๆ                               ข. ระบบสุริยะและดาวฤกษ์
ค. ดาวฤกษ์ในทางช้างเผือก ดาวฤกษ์บนฟ้า และระบบสุริยะ             ง. ถูกหมดทุกข้อ
69. กาแล็กซี่ทางช้างเผือกมีรูปร่างเป็นกาแล็กซี่แบบใด
ก.      รูปไข่               ข. กางหัน                ค. กางหันบาร์              ง. ไร้รูปทรง
70. กาแล็กซี่แมกเจลแลนใหญ่และกาแล็กซี่แมกเจลแลนเล็กจะอยู่บนขอบฟ้าทางด้านทิศใด
ก.      เหนือ                ข. ใต้                     ค. ตะวันตก                  ง. ตะวันออก
71. ในเอกภพมีรังสีความร้อนกระจายอยู่ทั่วไปอย่างค่อนข้างสม่ำเสมอรังสีความร้อนที่กระจายอยู่ในเอกภพถูกพบโดยใคร
ก.       อาร์โน เพนเซียส                                ข. โรเบิร์ต วิลสัน
ค. เอ็ดวิน พี ฮับเบิล                                   ง. ข้อ 1 ละ 2 ถูกต้อง
72. ข้อความใดอธิบายความหมายของกาแล็กซี่ได้ถูกต้องที่สุด
       ก. เป็นกระจุกดาวคล้ายดาวแมงป่อง                  ข. กลุ่มเมฆหมอกก้อนกลมมีลักษณะคล้ายจาน
       ค. เป็นแถบเรืองๆ สว่างยาวพาดไปบนท้องฟ้า     ง. ระบบของกลุ่มดาวต่างๆ รวมทั้ง โลก ดาวเคราะห์ และอุกกาบาต
73. ทฤษฎีการระเบิดครั้งใหญ่อธิบายว่ารังสีความร้อนที่กระจายในเอกภพมาจากอะไร
ก.      เป็นพลังงานความร้อนที่ดาวฤกษ์ปล่อยรังสีออกมา        ข. เป็นพลังง่านความร้อนที่ดวงอาทิตย์แผ่รังสีออกมา
ค. เป็นพลังงานความร้อนที่ได้มาจากการชนกันของดวงดาว  ง. เป็นพลังงานความร้อนที่เหลือจากการระเบิดครั้งใหญ่
74. ข้อใดเป็นข้อความที่ถูกต้อง
ก.      หลังการระเบิดครั้งใหญ่เพีย  วินาทีอุณภูมิของเอกภพลดลงเป็น  เคลวิน
ข.       หลังการระเบิดครั้งใหญ่ 3 นาที อุณภูมิของเอกภพลดลง  เคลวิน
ค.      พลังงานที่หลงเหลืออยู่ในอากาศหลังการระเบิดครั้งใหญ่มีอุณภูมิประมาณ 3 เคลวิน
ง.       ข้อ 1 และ 3 ถูกต้อง
75. กาแล็กซี่แมกเจลแลนใหญ่และแมกเจลแลนเล็กมีรูปร่างอย่างไร
ก.      เป็นแบบรูปวงรีหรือก้นหอย                           ข. มีรูปร่างกลมคล้ายผลส้มตรงกลางป้องออก
 ค. มีรูปร่างคล้ายจาน 2 ใบประกอบกัน                 ง. มีรูปร่างไม่แน่นอน หรือไร้รูปทรง
76. กาแล็กซี่แอนโดรเมดาจะอยู่ทางทิศของกลุ่มดาวใด
ก.      ดาวม้าบิน             ข. ดาวค้างคาว           ค. ดาวแอนโดรเมดา          ง. ดาวแมงป่อง
77. กลุ่มดาวแอนโดรเมดาอยู่ระหว่างกลุ่มดาวใด
ก.      ดาวม้าบิน ดาวค้างคาว                                             ข. ดาวม้าบิน ดาวแมงป่อง
ค. ดาวค้างคาว ดาวแมงป่อง                                            ง. ดาวค้างคาว ดาวนายพราน
78. ทางช้างเผือกที่เราเห็นเป็นทางขวาพาดตัวประมาณในแนวเหนือใต้บนท้องฟ้า คืออะไร
ก.      เนบิวลาชนิดหนึ่ง
ข.       ฝุ่นธุลีที่อยู่ในระบบสุริยะ
ค.      ดาวที่อยู่ในระบบกาแล็กซี่ของเรา
ง.        ดาวที่อยู่นอกระบบกาแล็กซี่ของเราซึ่งอยู่ไกลมากจนมองแยกเป็นดาวไม่ออก
79. ฝุ่นธุลีคอสมิคที่เราเห็นได้บนท้องฟ้าคืออะไร
ก.      ดาวหาง ข. กาแล็กซี่ ค. เนบิวลา ง. แสงเหนือ แสงใต้
80. กาแล็กซี่ในข้อใดที่มีขนาดใหญ่กว่ากาแล็กซี่ทางช้างเผือก
ก.      แมกเจลแลนใหญ่                              ข. แมกเจลแลนเล็ก 
ค. แอนโดรเมดา                                       ง. ถูกทุกข้อ

 เฉลยข้อสอบเอกภพและกาแล็กซี่

1. ข.                        2. ง                          3. ก.                        4. ก.                        5. ก.                       
        6. ก.                       7. ค.                         8. ข.                        9. ข.                        10. ก.                     
        11. ก.                    12. ข.                      13. ค.                      14. ค.                      15. ง.                     
        16. ข.                     17. ข.                     18. ข.                       19. ข.                      20. ข.
      21.                     22.                      23.                       24.                     25.
      26.                     27.                      28.                        29.                     30.
      31.                     32. ข                     33.                         34.                      35.
      36.                     37.                      38.                        39.                     40.
      41.                    42.                      43.                        44.                       45.  
      46.                47.                      48.                        49.                       50.
      51.                     52.                     53.                        54.                       55.  
      56.ข               57.                 58.                   59.ค                 60.   
      61.ง               62. ง                 63. ง                  64. ง                65. ง
      66. ค              67. ก                68. ค                 69. ข                70. ข
      71. ง               72. ง                73.  ง                 74. ง                75.ง
        76. ค                    77. ก                      78. ค                         79. ข                        80. ค

แหล่งที่มา1. เฉลยข้อสอบ Entrane ความถนัดทางวิทยาศาสตร์ PAT 2 และ B-PAT 2
2. โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ ม.5 เตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย O-NET
3. ข้อสอบ O-NET โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ + PAT 2

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น